Like
วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554
วิกฤตเศรษฐกิจเกิดมาจากอะไร ??
คุณรู้มั๊ยย ว่าวิกฤตเศรษฐกิจของโลกเราแต่ละครั้งมันเกิดได้ยังไง
สิ่งที่มันทำให้เกิดมันปัญหาอย่างรวดเร็วและร้ายแรง มันก็คือ ความโลกหรือความไม่พอของมนุษย์เรานี่แหละ
เริ่มจากวิกฤตต้มยำกุ้ง(เน่า) เมื่อปี 2540 ตอนนั้นเมืองไทยดอกเบี้ยเงินกู้สูงมากทำให้บริษัทเอกชนต้องไปกู้เงินจากต่างประเทศซึ่งดอกเบี้ยต่ำกว่ากันอย่างมหาศาลเพื่อมาลงทุน ช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหาเศรษฐกิจไทยบูมมาก ทำอะไรก็รุ่ง เล่นหุ้นซื้อแปปเดียวก็ได้กำไร ที่ดินราคาสูงปรี๊ดดด เมื่อราคาหุ้นกับพื้นฐานมันต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คนมันโลภยากได้มาก แล้วยิ่งมีตัวเร่งปฏิกริยาที่ทำให้ตลาดหุ้นมันพังด้วยกองทุนเฮดจ์ฟันจากทั่วโลก ที่นำโดยจอร์ส โซรอส ด้วยแล้วตลาดหุ้นเมืองไทยถึงได้ร่วงจาก 1800 จุดจนเกือบติดดิน ลงแรงเร็วมาก!!
วิกฤษเศรษฐกิจต่อมาคราวนี้ไม่ได้เกิดที่เมืองไทย แต่ไปเกิดที่ประเทศที่มีคนได้รับรางวัลโนเบลสาขา เศรษฐศาสตร์มากที่สุดในโลก ไม่ใช่ประเทศไหนหรอก ก็เมืองลุงแซมประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง
ควาวนี้ปัญหามันก็เกิดจากความไม่พอของมนุษย์อีกเช่นกัน คนอเมริกาใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยและฟุ้งเฟ้อและมีการก่อหนี้ค่อนข้างมากต่อหนึ่งครอบครัว ทั้งทีวี มือถือ รถยนต์ ... อื่นๆ อีกมากมาย แต่หนี้ก้อนที่สำคัญที่สุดมาจากหนี้จากที่อยู่อาศัย คนอเมริกาตอนนั้นคิดว่าบ้านเป็นการลงทุนที่ดีมาก ก็เลยกู้เงินมาซื้อบ้านเพื่อลงทุนกันยกใหญ่(นี่อาจมาจากแนวคิดของหนังสือพ่อรวยสอนลูก rich dad poor dad รึป่าว) เมื่อดีมานในบ้านมันเยอะราคาบ้านมันแพง แพงขึ้นเรื่อยๆ มันก็กลายเป็นบัฟเบิล และคราวนี้ก็มีตัวเร่งให้มันแตกอย่างเร็วและแรงอีกเช่นเคย ครั้งมีเป็น วาณิชธนกิจ( Investment banker)ยักษ์ใหญ่ เช่น โกลแมน แซค เลแมนบราเตอร์ และก็ IB จากแบงค์ใหญ่ทั่วโลก
ปัญหาเกิดจากยังไงก็ลองไปหาบทความอ่านต่อนะครับถ้าสนใจ เพราะเราจะได้ไม่ก้าวผิดพลาดเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ประวัติศาสตร์จะได้ไม่เกิดขึ้นซ้ำลอย^^
มาถึงปัจจุบัน คำถามที่สำคัญมากๆ ก็คือ เราอยู่ในช่วงที่กำลังจะเกิดวิกฤตรึป่าว ???
ในความคิดผม ผมว่ายังแต่ก็อีกไม่ไกลถ้าขดมาตรการดูแลอย่างดี ตอนนี้ตลาดหุ้นเมืองไทยขึ้นมาเยอะมากจากฐานตอนช่วงปี 2008-2009 และใช้เวลาเร็วมากในการไต่จากช่วง 500 จุดมากกว่า 1000 จุด และพอเวลาที่อะไรมันเกิดความไม่สมดุลมากๆ เวลาที่มันปรับเข้าสู่จุดสมดุลจะก็เลยจะต้องปรับแรง
ราคาหุ้นไทยเมื่อ เทียบเป็น PE เท่ากับ 15 เท่าถือว่าสูงมาก แต่นี่มันเป็นการใช้ earning ของปีที่ผ่านมาคิดนะครับ ถ้าปีนี้หรือในอนาคต earning เพิ่มขึ้น PE ลดลง หุ้นไทยก็ไปต่อได้อย่างแน่นอน
แล้วยิ่งสัปดาห์ก่อนนายกรณ์ออก มาแสดงความมั่นใจว่าหุ้น ไทยจะไปไกลกว่า 1700 จุด ก็มีโอกาสเป็นไปได้นะครับ (แต่ในความคิดผม อีกนาน) อาจเป็นการล่อพี่แมงเม่าเข้ากองไปก็ได้ ฮ่าๆๆ
ฝากไปคิดต่อนะครับ ถ้าหุ้นไทยมันจะไปต่อ จะต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง !!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น