เชื่องนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิดแพงขึ้นอย่างมาก ราคาหลายอย่างมันขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นพวกผักผลไม้ ข้าว และที่สำคัญที่เป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ก็คือไข่ไก่ แม้ราคาไข่มันจะขึ้นมาไม่กี่สตางค์แต่มันสะท้อนให้เห็นว่าระดับเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชาวบ้านต้องใช้จ่ายจริงๆ มันเฟ้อขึ้นขนาดไหน
แล้วเงินเฟ้อมันส่งผลกระทบอะไร?? เมื่อเงินมันเฟ้อขึ้นเรื่อยมูลค่าที่แท้จริงของเงินมันก็ลดลงในอัตราเร่งเช่นเดียวกัน เงินวันนี้หากเก็บไว้เฉยในอนาคตไม่ช้าไม่นานมันจะมีค่าน้อยลงอย่างแน่นอน สิ่งที่สำคัญก็คือในช่วงที่เกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรงเกิดขึ้น คนที่ถือเงินสดควรจะเปลี่ยนจากเงินสดไปถือสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าเงินเฟ้อ
แล้วจะเอาเงินสดไปลงทุนอะไร??
คำถามแรกก็ต้องถามตัวเองก่อนเลยนะครับว่าคุณระความเสี่ยงได้เท่าไหร่ !! หากรับความเสี่ยงได้น้อยมาก ก็เอาเงินไปฝากธนาคารแต่จริงๆแล้วผลตอแทนจากเงินฝากธนาคารมันสู้เงินเฟ้อไม่ได้นะครับ หากรับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้นมาก็เอาเงินไปซื้อพันธบัตร เอาไปซื้อหุ้น หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่คุณมีความถนัด
ผมขอสมมติว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านในเวบนี้รับความเสี่ยงได้ในระดับที่สามารถลงทุนในหุ้นได้นะครับ
การลงทุนหรือการเก็งกำไรในหุ้นก็มีอยู่หลายวิธี ทั้งเล่นสั้น เล่นยาว ดูกราฟ หรือวิเคราะห์พื้นฐาน
วิธีที่จะแนะนำสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นก็คือ วิเคราะห์จากพื้นฐานของเศรษฐกิจ แต่ถ้าจะเอาให้ง่ายกว่านั้นเข้าไปอีกคุณก็ซื้อตามคนที่ประสบความสำเร็จหรือที่คนทั่วๆ ไปเค้าเรียกว่าเซียน ^^ ในเวบนี้มีอยู่หลายคนและมีอยู่หลายแนว
เมื่อเลือกสไตร์การลงทุนได้แล้วก็ค่อยๆ เริ่มจากเงินก้อนเล็กๆ นะครับ อย่าไปเอาเงินก้อนใหญ่เกินตัวหรือไปกู้หรือเอาเงินส่วนที่ต้องใช้มาเล่น เพราะการลงทุนมันมีความเสี่ยงอยู่ในตัวเอง หากคุณกำไรก็โชคดีไปแต่ถ้ามันเกิดขาดทุนขึ้นมาแล้วชีวิตจะยุ่งนะ
สุดท้ายไม่มีความสำเร็จอะไรได้มาโดยง่าย แม้กำไรจะได้ง่ายในช่วงที่ตลาดอยู่ในภาวะกระทิงแต่มันก็อาจหายไปได้เหมือนกันในช่วงเวลาที่คุณตัดสินใจผิดพลาด
ปล. มีดัชนี้อัตราเงินเดือน ธันวาคม 53 มาให้ดูครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น