ทุกวันนี้การแข่งขันไม่ว่าอะไรก็ตามมันแข่งกันรุนแรงมากและการแข่งขันทุกอย่างมันก็ต้องจบลงด้วยการที่ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชนะในขณะอีกฝ่ายจะต้องอยู่ฝั่งของคนแพ้เสมอในโลกของการลงทุนนั้นการแข่งขันมันมีความได้เปรียบและเสียเปรียบกันอยู่มากพอสมควรเลย ทั้งเรื่องของขนาดของเงิน ความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์และความเร็วในการตัดสินใจ
ในเรื่องของขนาดของเงินลงทุนนั้น ถ้าเราดูการโยกเงินเข้าๆ ออกๆ ของกองทุนและฝรั่งทั้งหัวดำหัวแดง เราจะเห็นว่าพวกนี้เวลาที่ซื้อหุ้นก็ไม่ได้ซื้ออย่างเดียว เวลาขายก็เช่นกันไม่ได้สักแต่ขายอย่างเดียว มีการยึกยักซื้อบ้างขายบ้างทำให้เกิดการสวิงของราคา(รายย่อยมึนนน) คนที่คิดว่าเจ๋งเข้าไปรับหรือเข้าไปตาม สุดท้ายไม่ค่อยรอดเพราะกลุ่มคนที่มีพอร์ตขนาดใหญ่จะรู้ทิศทางของราคาและสามารถทนถือได้นานกว่า ในช่วงเวลาที่พอร์ตยังไม่กำไร
ส่วนในเรื่องของความแม่นยำของข้อมูล ความต่างมันชัดเจนอย่างมากเพราะว่ากองทุนใหญ่ๆ หรือ Investment Bank สามารถเข้าไปคุยกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทนั้นๆ เพื่อสอบถามข้อมูลและความเป็นไปของบริษัทได้ เมื่อได้ข้อมูลมาก็จะมาทำการประเมินราคาหุ้น (valuation) ในขณะที่รายย่อยไม่มีโอกาสได้เข้าไปคุยแบบตัวต่อตัวอย่างนั้น ทำได้อย่างมากก็เพียงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่กระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท และการดูงบการเงินย้อนหลังซึ่งมันมีปันหาเรื่องความเร็วของข้อมูล
แค่เรื่องความเร็วและความถูกต้องของข้อมูล มันก็ทำให้คนที่รู้ก่อนทำกำไรได้อย่างมหาศาล
แล้วเราจะทำยังไงเพื่อลดความเสียเปรียบทั้งในเรื่อง ขนาดของเงิน และ ความไม่เท่ากันของข้อมูลที่มี
วิธีหนึ่งที่น่าจะง่ายสำหรับทุกคนก็คือ การตัดสินใจให้ช้าลงคิดให้มากขึ้น^^ และก็อาจจะรวมทั้งถือให้นานขึ้นด้วย โดยต้องมองอนาคตและภาพรวมหุ้นตัวนั้นให้ออก เพราะการลงทุนนั้นจริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและผลงานของงานของบริษัทในระยะยาว การแกว่งของราคามันเป็นเพียงช่วงสั้นๆ สุดท้ายยังไงถ้าเลือกหุ้นจากกิจการที่มีพื้นฐานที่ดี มีปันผลจ่ายสม่ำเสมอ วิธีนี้ก็จะทำให้ลดปัญหาการขาดทุนได้ระดับนึง
อีกวิธีนึงก็ได้แก่ การใช้เทคนิคัล มาช่วยในการตัดสินใจ เครื่องมือทางเทคนิคมีมากมาย ทั้งการใช้เส้นค่าเฉลี่ย ใช้อินดิเคเตอร์ ใช้รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา และก็อีกหลายวิธี เพื่อหาแนวรับและแนวต้านของหุ้นตัวนั้น และเพื่อหาจุดในการเข้าซื้อ และขายเพื่อทำกำไร
การจะใช้เทคนิคัลมาเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ต สิ่งที่ต้องยึดมั่นก็คือ ทำตามก็ที่เราต้องขึ้นไว้ในตอนแรก เราซื้อเพราะอะไร ขายเพราะอะไร เพราะการไม่ทำตามสิ่งที่ได้กำหนดไว้ในตอนเริ่มต้น แม้จะได้กำไรสูงๆ ในระยะสั้นแต่ในระยะยาวนั้นมันอาจไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้นะครับ^^
สิ่งที่ต้องจำไว้ก็คือ การลงทุนเราไม่ได้ไปต่อสู้กับใคร คนที่เราต้องสู้ด้วยก็คือตัวเอง เราทำตามแผนที่เราตั้งไว้ได้รึป่าวแค่นั้นเอง^^
ง่ายนิดเดียว แต่ยากมากกกก ฮ่าๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น